วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Arsenal


สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล์ (Arsenal )





 
ประวัติ
               สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลเริ่มต้นขึ้น เมื่อกลุ่มคนงานของโรงงานผลิตอาวุธรอยัลอาร์เซนอลในแขวงวูลิช กรุงลอนดอน ก่อตั้งทีมฟุตบอลของตนเองขึ้นมาเมื่อปลายปี ค.ศ. 1886 ในชื่อ ไดอัล สแควร์ การแข่งขันแรกของทีมคือเกมที่สามารถเก็บชัยชนะเหนือทีมอีสเทิร์น วันเดอเรอร์ส 6-0 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1886 หลังจาก ในปี 1925 อาร์เซนอลได้ว่าจ้างให้เฮอร์เบิร์ต แชปแมนเป็นผู้จัดการทีม แชปแมนเคยพาสโมสรฟุตบอลฮัดเดอร์สฟิลด์ทาว์นคว้าแชมป์ลีกมาแล้ว 2 สมัยคือฤดูกาล 1923-24 และ 1924-25 ก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมอาร์เซนอลนี้ และแชปแมนคือคนแรกที่พาอาร์เซนอลก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความสำเร็จยุคแรก เขาจัดการเปลี่ยนระบบการซ้อมและแทคติคใหม่ทั้งหมดพร้อมทั้งซื้อนักเตะระดับแนวหน้ามาร่วมทีมไม่ว่าจะเป็นอเล็กซ์ เจมส์และคลิฟฟ์ บานติน ทำให้อาร์เซนอลก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลอังกฤษได้ในช่วงทศวรรษที่ 1930 อาร์เซนอลคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆได้เป็นครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของแชปแมน โดยสามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้ฤดูกาล 1929-30 และแชมป์ลีก 2 สมัยคือฤดูกาล 1930-31 และ 1932-33 นอกจากนั้น แชปแมนยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนชื่อสถานีรถไฟใต้ตินที่อยู่ในย่านนั้นคือ Gillespie Road เป็นสถานีรถไฟใต้ดิน "อาร์เซนอล" อันเป็นสถานีรถไฟใต้ดินเพียงแห่งเดียวที่ตั้งชื่อตามสโมสรฟุตบอลโดยเฉพาะ
อาร์เซนอลเริ่มกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งหนึ่งหลังจากได้ว่าจ้างให้เบอร์ตี้ มี นักกายภาพบำบัดให้มารับตำแหน่งผู้จัดการทีมในปี 1966 แบบไม่มีใครคาดคิด อาร์เซนอลสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศลีกคัพได้ 2 สมัยแต่ก็พลาดแชมป์ทั้งสองครั้ง แต่ก็ยังสามารถคว้าแชมป์อินเตอร์ซิตี้แฟร์สคัพ ฤดูกาล 1969-70 ซึ่งเป็นถ้วยยุโรปใบแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ตามมาด้วยการคว้าดับเบิ้ลแชมป์เป็นครั้งแรก นั่นคือแชมป์ลีกและเอฟเอคัพในฤดูกาล 1970-71 แต่ในทศวรรษต่อมานั้น อาร์เซนอลทำได้แค่เพียงการเข้าไปใกล้ตำแหน่งแชมป์มากที่สุดแต่ก็แทบจะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เลย โดยได้รองแชมป์ลีกในฤดูกาล 1972-73 รองแชมป์เอฟเอคัพในฤดูกาล 1971-72, 1977-78 และ 1979–80 และยังพ่ายแพ้ในเกมยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพรอบชิงชนะเลิศด้วยการดวลจุดโทษอีกด้วย สโมสรประสบความสำเร็จเพียงครั้งเดียวในช่วงนี้ก็คือการคว้าแชมป์เอฟเอคัพในฤดูกาล 1978-79 ได้ด้วยการเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปได้ 3-2 ในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญกันมากในเรื่องของความคลาสสิคของเกมนี้
ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรอยู่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 และช่วงทศวรรษที่ 2000 เนื่องจาก อาร์แซน เวนเกอร์ เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมในปี 1996 เวนเกอร์นำแทคติคใหม่ๆมาใช้ นำวิธีการซ้อมใหม่ๆเข้ามาและนำนักเตะต่างชาติที่สามารถปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้มาเสริมทีมจำนวนมาก อาร์เซนอลจึงสามารถคว้าดับเบิลแชมป์ได้อีกครั้งในฤดูกาล 1997-98 ซึ่งเป็นแชมป์ลีกและแชมป์บอลถ้วย และได้ดับเบิลแชมป์ที่ 3 ในฤดูกาล 2001-02 นอกจากนั้น สโมสรยังสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่าคัพได้ในฤดูกาล 1999-00 (แพ้จุดโทษให้กับกาลาตาซาราย แต่มาได้แชมป์เอฟเอคัพ ในฤดูกาล 2002-03 และ 2004-05 แชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งในปี 2003-04 ซึ่งเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกโดยที่ไม่แพ้ทีมใดเลยจนได้รับฉายาว่า "อาร์เซนอลผู้ไร้เทียมทาน" (The Invincibles) และสามารถทำสถิติไม่แพ้ติดต่อกัน 49 นัดได้ในฤดูกาลต่อมา ซึ่งนับว่าเป็นสถิติสูงสุดของประเทศอีกด้วย
อาร์เซนอลจบฤดูกาลด้วยอันดับ 1 หรืออันดับ 2 รวมทั้งสิ้น 8 ฤดูกาลจาก 11 ฤดูกาลที่อาร์แซน เวนเกอร์ก้าวเข้ามาคุมทีมๆนี้อาร์เซนอลเป็นหนึ่งในห้าสโมสรเท่านั้นที่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ตั้งแต่ก่อตั้งลีกสูงสุดนี้ขึ้นในปี 1993 (นอกจากอาร์เซนอลก็มีแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแบล็คเบิร์น โรเวอร์สเชลซี และ แมนเชสเตอร์ซิตี้)แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันแชมป์ได้แม้แต่สมัยเดียวก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ อาร์เซนอลยังไม่เคยตกรอบที่ต่ำกว่ารองก่อนรองชนะเลิศในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเลย โดยในฤดูกาล 2005-06 สามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ ซึ่งเป็นทีมแรกจากกรุงลอนดอนที่สามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศถ้วยยุโรปได้ในรอบ 15 ปี แต่กลับแพ้ให้กับบาร์เซโลนา 2-1 อย่างน่าเสียดาย จากนั้นในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2006 อาร์เซนอลก็ได้ยุติประวัติศาสตร์ 93 ปีที่ไฮบิวรีลง โดยการย้ายสนามเหย้ามาอยู่ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียมอันเป็นที่ตั้งของสโมสรในปัจจุบันนี้

สนาม อาร์เซนอลสเตเดียม


มันถูกสร้างขึ้นมา แต่เดิมในปี 1913 บนเว็บไซต์ของท้องถิ่น วิทยาลัย พื้นนันทนาการและจึงถูกปรับปรุงใหม่อย่างมีนัยสำคัญสองครั้ง ก่อนเดินเข้ามาในช่วงทศวรรษที่ 1930 ซึ่ง Art Deco ตะวันออกและตะวันตกแทนวันที่ที่สองในปลายทศวรรษ 1980 และ 1990 ตาม รายงานเทย์เลอร์ ในระหว่างที่ ระเบียง ที่ปลายทั้งสองของสนามถูกถอดออกมาทำให้ทุกที่นั่ง กับสี่ยืน การลดที่เกิดในความสามารถและรายได้ matchday ที่สุดนำไปสู่การเลือกอาร์เซนอลที่จะสร้าง สนามกีฬามิเรตส์ ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อที่พวกเขาย้ายในปี 2006 เมื่อเร็ว ๆ นี้ Highbury มีระดับการพัฒนาขื้นใหม่ที่จะเปิดเป็น บล็อกของแฟลต ส่วนใหญ่ของสนามกีฬาที่ถูกทำลายส่วนของตะวันออกและตะวันตกแทนยังคงที่จะถูกรวมเข้าไปในการพัฒนาใหม่ของพวกเขาเนื่องจาก สถานะที่ระบุ .
สนามกีฬายังเป็นเจ้าภาพการแข่งขันระหว่างประเทศ - ทั้ง อังกฤษ และใน โอลิมปิกฤดูร้อน 1948 - และ เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศกึ่ง เช่นเดียวกับ มวย , เบสบอล และ คริกเก็ต ตรง [4] การปรากฏตัวของมันนำยังท้องถิ่น ใต้ดิน สถานีถูกเปลี่ยนชื่อเป็น อาร์เซนอล ในปี 1932 ทำให้สถานีเดียวในเครือข่ายรถไฟใต้ดินที่จะตั้งชื่อตามสโมสรฟุตบอล
สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล (หรือรู้จักกันดีในชื่อ "The Gunners" หรือ "ไอ้ปืนใหญ่") เป็นทีมจากฮอลโลเวย์ ย่านลอนดอนเหนือ เป็นสโมสรฟุตบอลที่เล่นในเอฟเอพรีเมียร์ลีก และเป็นสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งในฟุตบอลอังกฤษ โดยก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1886 ครองแชมป์ดิวิชั่น 1 13 ครั้งและเอฟเอคัพ 10 สมัย มีสนามเหย้าปัจจุบันคือ เอมิเรตส์สเตเดียม โดยย้ายจากสนามเดิมอาร์เซนอลสเตเดียม ในย่านไฮบิวรี่ เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2006 สำหรับสถิติการเล่น สโมสรอาร์เซนอลยังเป็นสโมสรเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ไม่เคยแพ้ตลอดฤดูกาล
สีประจำสโมสรคือสีแดง-ขาว ปัจจุบันอาร์เซนอลเป็นสโมสรหนึ่งในกลุ่มจี-14
อาร์เซนอลมีกลุ่มแฟนบอลที่ให้การสนับสนุนเป็นจำนวนมากทั่วโลก โดยมีคู่ปรับสำคัญหลายทีม ไม่ว่าจะเป็นคู่ปรับร่วมเมืองที่อยู่ไม่ไกลอย่างทอตแนมฮ็อตสเปอร์ อาร์เซนอลเป็นหนึ่งในสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในอังกฤษ (มีทรัพย์สินกว่า 600 ล้านปอนด์ในปี 2007)

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

No.              ตำแหน่ง      ผู้เล่น

2                      MF      อาบู ดียาบี
3                      DF       บาการี ซาญา
4                      DF       แพร์ แมร์เทซัคเคอร์
5                      DF       โทมัส แฟร์มาเลิน (รองกัปตันทีม)
6                      DF       โลร็อง โกเซียลนี
7                      MF      โทมาช โรซิตสกี
8                      MF      มีเกล อาร์เตตา
9                      FW      ปาร์ก ชู-ยัง
10                    FW      โรบิน ฟาน เพอร์ซี (กัปตันทีม)
11                    DF       อังเดร ซานโตส
12                    FW      โอลีวีเออร์ ชิรูด์
13                    GK       วอยแชค ชแชนสนือ
14                    FW      ธีโอ วัลคอตต์
15                    FW      อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน
16                    MF      อารอน แรมซีย์
17                    MF      อเล็กซานเดอร์ ซง
18                    DF       เซบัสเตียง สกีลลาซี
19                    MF      แจ็ก วิลเชียร์
20                    DF       โยฮัน ชูรู
21                    GK       วูกัช ฟาเบียญสกี
23                    MF      อันเดรย์ อาร์ชาวิน
24                    GK       วีโต มานโนเน
25                    DF       คาร์ล เจนคินสัน
26                    MF      เอ็มมานูเอล ฟริมปง
27                    FW      แชร์วินโย
28                    DF       คีแรน กิบส์
29                    FW      มารูยาน ชามัคห์
31                    FW      เรียว มิยาอิชิ
39                    MF      ฟรานวิส โคเกอแลง
46                    MF      เฮนรี แลนสบิวรี
52                    FW      นิกคลาส เบนด์เนอร์
—                    FW      ลูคัส โพดอลสกี
—                    FW      การ์โลส เบลา
—                    DF       ไคล์ บาร์ทลีย์
ผู้เล่นสำรอง

 No.      ตำแหน่ง      ผู้เล่น

 35                    FW      Zak Ansah
 37                    DF       Daniel Boateng
 38                    DF       George Brislen-Hall
 44                    MF      Conor Henderson
 45                    DF       Gavin Hoyte
 48                    MF      Jernade Meade
 49                    DF       Ignasi Miquel
 51                    FW      Nigel Neita
 53                    MF      Oğuzhan Özyakup
 61                    MF      Josh Rees
 62                    GK       James Shea





สถิติที่น่าสนใจ

อาร์เซนอลเป็น 1 ใน 4 สโมสรของอังกฤษ ที่ได้แชมป์ลีกติดต่อกันมากที่สุด คือ 3 ครั้ง ในฤดูกาล 1932-33, 1933-34, 1934-35
ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2001-02 อาร์เซนอลสามารถทำประตูได้ในทุกนัด เป็นสถิติสูงสุดของลีก
ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2001-02 อาร์เซนอลชนะติดต่อกัน 14 นัด เป็นสถิติสูงสุดของพรีเมียร์ลีก (มีอีก 3 สโมสรคือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดบริสตอลซิตี้เปรสตันอร์ธเอนด์ ที่ทำสถิติชนะติดต่อกัน 14 นัดเช่นกัน แต่ทั้งหมดนั้นเป็นสถิติในดิวิชั่น 2)
ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2003-04 อาร์เซนอลไม่แพ้ใครตลอดฤดูกาล 38 นัด (ชนะ 26 เสมอ 12) เป็นครั้งแรกของพรีเมียร์ลีก และครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษต่อจาก เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ในฤดูกาล 1888-89 ซึ่งขณะนั้นมีการแข่งขันเพียง 22 นัดต่อฤดูกาล
อาร์เซนอลไม่แพ้ใครเลยในพรีเมียร์ลีกติดต่อกัน 49 นัด ระหว่างฤดูกาล 2002-03, 2003-04, 2004-05
ฟุตบอล ที่สนามกีฬาใน ไฮบิวรี่ , นอร์ทลอนดอน ซึ่งเป็นพื้นดินที่บ้านของ สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล ระหว่าง 6 กันยายน 1913 และ 7 พฤษภาคม 2006 มันเป็นที่รู้จักส่วนใหญ่เป็น ไฮบิวรี่ เนื่องจากที่ตั้งของมันและได้รับสมญานามใคร่ของ "หน้าแรกของฟุตบอล" โดยคลับ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น